ตลาดการเงิน คือตัวกลางที่ให้ผู้ต้องการเงินทุน(กิจการ) และผู้มีเงินออม(ผู้ลงทุน) มาพบกัน เพื่อเป็นการจัดหาเงินทุนสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนโดยใช้สินทรัพย์ทางการ เงินต่างๆ เป็นเครื่องมือ เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดหาเงินทุนของกิจการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย ขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กับผู้ลงทุนมากขึ้น เช่น ตั๋วเงินคลัง ตราสารหนี้ หุ้นสามัญ
เปรียบเทียบการจัดหาเงินทุนโดยการกู้ยืมจากสถาบันการเงินและตลาดการเงิน
|
เช่นกิจการ ABC ต้องการจัดหาเงินทุนเพื่อขยายกิจการ ในขณะที่ผู้ลงทุน B ต้องการหาช่องทางการลงทุน ทั้งกิจการ ABC และนักลงทุน B สามารถตอบสนองความต้องการได้ผ่าน 2 ช่องทางดังนี้ 1. กรณีผ่านสถาบันการเงิน โดยมีธนาคารหรือบริษัทเงินทุนเป็นตัวกลางระหว่างผู้ต้องการเงินทุนกับผู้มีเงินออม โดยกิจการ ABC ขอสินเชื่อกับธนาคารระยะเวลา 3 ปี ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย 7 % ในขณะที่ผู้ลงทุน B นำเงินมาจากการฝากประจำ 3 ปี ได้รับผลตอบแทนเป็นตราดอกเบี้ย 3 % ทำให้กิจการ ABC มีต้นทุน 7 % ผู้ลงทุน Bได้ผลตอบแทน 3 % และธนาคารซึ่งเป็นตัวกลางได้ส่วนต่าง 4 % 2. ผ่านตลาดการเงิน เป็นการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้โดยตรงทำให้กิจการได้รับต้นทุนที่ต่ำกว่าใน ขณะที่ผู้ลงทุนก็มี โอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นกว่าการฝากประจำ กับธนาคารในระยะเวลาที่เท่ากัน โดยกิจการ ABC ออกสินทรัพย์ทางการเงิน(หุ้นกู้) ระยะเวลา 3 ปี ให้อัตราดอกเบี้ย 5 % ซึ่งผู้ลงทุน B ได้ทำการซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน(หุ้นกู้) จากกิจการ ABC ไปโดยได้รับผลตอบแทน 5 % เช่นกัน จะเห็นได้ว่าการจัดหาเงินทุนผ่านตลาดการเงินไม่มีตัวกลางซึ่งผู้ลงทุนอาจได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นแต่ก็มี ความเสี่ยงที่มากขึ้นเช่นกันหากกิจการ ABCเกิดประสบปัญหาขาดทุนทำให้ไม่สามารจ่ายดอกเบี้ยได้ผู้ลงทุน ก็จะมีความเสียงจากการผิดนัดชำระ |
|
No comments:
Post a Comment